New-Onset Diabetes After Renal Transplantation
เบาหวานชนิดที่มีสาเหตุเฉพาะ (Other specific types of diabetes) ทำให้เบต้าเซลล์ของตับอ่อนเสียหน้าที่ เบต้าเซลล์ทำงานผิดปกติ จึงหลั่งอินซูลินน้อยลง ร่างกายนำน้ำตาลในเลือด ไปใช้เป็นพลังงานไม่ได้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง และเป็นเบาหวาน สาเหตุของเบาหวานชนิดนี้ ได้แก่
โรคของตับอ่อน: ผ่าตัดตับอ่อน หรือตับอ่อนอักเสบ
ยีนที่ควบคุมการทำงานของตับอ่อนผิดปกติ (monogenic defect of pancreatic beta cell) เช่น maturity-onset diabetes of the young (MODY), ความผิดปปกติของยีนที่ควบคุมการทำงานของอินซูลิน
โรคต่อมไร้ท่อ อื่นๆ เช่น เนื้องอกต่อมหมวกไตหรือเนื้องอกต่อมใต้สมองบางชนิด ที่ผลิตฮอร์โมนมากผิดปกติ (acromegaly, cushing syndrome, pheochromocytoma)
โรคที่มีความผิดของโครโมโซม เช่น Down's syndrome, Turner syndrome, Klinefelter syndrome
โรคที่มีความผิดปกติของอิมมูน เช่น autoimmune disease, insulin receptor antibody
ยา หรือสารเคมีบางชนิดที่ทำให้การหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนผิดปกติ, ไวรัสบางชนิด เช่น ติดเชื้อหัดเยอรมัน
ครั้งนี้จะพูดถึงเบาหวานจากยากดภูมิคุ้มกัน หลังได้รับการเปลี่ยนถ่ายไต หรือเรียกว่า New-onset diabetes after transplantation (NODAT) การวินิจฉัยเบาหวาน nodat เหมือนการวินิจฉัยเบาหวานทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยงเบาหวาน NODAT
- ปัจจัยเสี่ยงทั่วไป เช่น อายุมาก อ้วน ประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน
- ปัจจัยเสี่ยงจำเพาะต่อ NODAT เช่น ยาสเตียรอยด์ ยา sirolimus, calcineurin inhibitor (cyclosporin , tacrolimus) ซึ่งมีผลทำให้เบต้าเซลล์เสื่อมหน้าที่ pancreatic β-cell apoptosis มีการรบกวน transcriptional regulation of insulin expression สาเหตุอื่นๆ เช่น ภาวะเกลือแร่ magnesium ในเลือดต่ำ ภาวะเครียดหหรือการกระตุ้นที่สัมพันธ์กับการผ่าตัด โรคร่วมทางไต เช่น ถุงน้ำในไต เป้นต้น
การดูแล ภาวะน้ำตาลสูง NODAT
-ประเมินระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่การผ่าตัด ระหว่าง และหลังผ่าตัดเป็นระยะ
- พิจารณา ยากดภูมิที่รักษา
- รักษาน้ำตาลสูง เมื่อวินิจฉัย NODAT แล้ว
http://care.diabetesjournals.org/content/35/1/181
http://www.uptodate.com/contents/new-onset-diabetes-after-transplant-nod...
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23076551