Advances in the management of hyperglycaemia and diabetes mellitus during hospitalization จาก Nature reviews Endocrinology สิงหาคม 2025
•ผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ที่มีน้ำตาลในเลือด blood glucose > 140 mg/dl ควรได้รับการเจาะเช็ค HbA1c test ร่วมด้วย
•ผุ้เป็นเบาหวาน ควรได้รับการเจาะ HbA1c ระหว่างนอนรพ. เพื่อช่วยพิจารณาการใช้ยารักษาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล
•ผู้ที่ได้รับการตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง การเจาะเช็ค HbA1c ช่วยแยก previously undiagnosed diabetes mellitus และ stress-induced hyperglycaemia
- หลายการศึกษา หลายสมาคม แนะนำแนวทางการควบคุมระดับน้ำตาลให้ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป ทั้งในหอผู้ป่วยหนัก และหอผู้ป่วยทั่วไป เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน (ตามรูป) ใน ICU setting แนะนำให้ระดับน้ำตาลในเลือด ไม่เกิน 180 mg/dl โดย ADA guideline 2025 แนะนำ glycaemic goal อยู่ระหว่าง 140–180 mg/dl ส่วน non-ICU setting แนะนำ glycaemic goal อยู่ระหว่าง 100–180 mg/dl
- รายที่มีภาวะวิกฤติ ควรให้การรักษาด้วย intravenous infusion เพื่อให้ระดับน้ำตาลได้ตามเป้า หากต้องการใช้อินซูลินชนิดฉีดใต้ผิวหนัง ควรพิจารณาหลายปัจจัย ที่อาจส่งผลต่อการดูดซึมยาอินซูลินในรายที่ critical illness หรือช่วงผ่าตัด perioperative ซึ่งอาจทำให้คุมน้ำตาลไม่ได้ผลได้
- ส่วนผู้ป่วยทั่วไป ที่อาการไม่วิกฤติ ทั้งอายุรกรรมและศัลยกรรม แนะนำให้ใช้อินซูลินชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้คุมน้ำตาลเข้มงวดเกินไปในรายที่มี multiple comorbidities
- ส่วนผู้ป่วยทั่วไป ที่อาการไม่วิกฤติ ทั้งอายุรกรรมและศัลยกรรม แนะนำให้ใช้อินซูลินชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้คุมน้ำตาลเข้มงวดเกินไปในรายที่มี multiple comorbidities
- สามารถใช้ continuous subcutaneous insulin infusions (pumps) ได้ ตามแต่พิจารณา
