เบาหวานไม่เบาใจ ถ้าเบาหวานขึ้นตาจะรับมืออย่างไร?

การดูแลผู้ป่วย

เพราะโรคเบาหวาน ทำให้หลอดเลือดในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งส่งผลต่ออวัยวะต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะดวงตา จนมีอาการ ‘เบาหวานขึ้นตา’ นั่นเอง แล้วรู้หรือเปล่าว่า วลียอดฮิตที่เรามักได้ยินบ่อย ๆ นี้ แท้จริงแล้วมันหมายความว่าอย่างไร?
 

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้หลอดเลือดอุดตันจนไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ตามปกติ ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยที่ไปหล่อเลี้ยงจอตาโป่งพองเป็นหย่อม ๆ เลือดและน้ำเหลืองซึมออกมาจากหลอดเลือดและกระจายไปทั่วจอประสาทตา แล้วเส้นเลือดใหญ่ที่จอตาจะเริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นผิดปกติ
 

เมื่อเส้นเลือดในจอประสาทตาได้รับความเสียหายมาก ๆ ร่างกายก็จะสร้างหลอดเลือดใหม่มาทดแทน แต่หลอดเลือดที่สร้างใหม่มีผนังไม่แข็งแรง ฉีกขาดได้ง่าย ทำให้มีเลือดรั่วซึมออกมาที่บริเวณวุ้นตา และอาจเกิดแผลเป็นซึ่งเป็นสาเหตุให้จอตาลอกออกจากด้านหลังของดวงตา สิ่งที่ตามมาคือ ประสิทธิภาพการมองเห็นเริ่มลดลง บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดได้เลยทีเดียว
 

สัญญาณอันตรายที่บอกว่า “คุณกำลังมีภาวะเบาหวานขึ้นตา”
อาการของเบาหวานขึ้นตา แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีหลอดเลือดเกิดใหม่ ซึ่งอาการอาจยังไม่รุนแรงนัก แต่ถ้าเข้าสู่ระยะก้าวหน้าที่มีหลอดเลือดเกิดใหม่แล้วนั้น อาการก็อาจทวีความรุนแรงขึ้นโดยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เราขอสรุปอาการเบาหวานขึ้นตาสั้น ๆ ไล่เรียงตามระดับความรุนแรงจากน้อยไปมาก ดังนี้

  • มองเห็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา
  • มองเห็นภาพบิดเบี้ยว
  • ตามัว ประสิทธิภาพการมองเห็นแย่ลง สายตาไม่คงที่
  • แยกแยะสีได้ยากขึ้น
  • เห็นภาพมืดเป็นบางจุด
  • สูญเสียการมองเห็นหรือตาบอด

แต่ผู้ป่วยเบาหวานบางรายอาจไม่มีอาการผิดปกติเลยแม้อยู่ในระยะรุนแรงแล้วก็ตาม
 

ป้องกันตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลเบาหวานขึ้นตา

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความดัน และระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • รับประทานยาเบาหวานตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ผู้ที่เป็นเบาหวานและผู้ดูแลผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตการมองเห็นของผู้ป่วยอยู่เสมอ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด หรือเห็นจุดดำ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที
  • ผู้ที่เป็นเบาหวานควรตรวจตาเป็นประจำทุกปี แม้จะมีหรือไม่มีความผิดปกติด้านการมองเห็นก็ตาม เพราะผู้ที่เป็นเบาหวานขึ้นตาหลายคนก็ไม่แสดงอาการตามที่กล่าวมา ดังนั้น การตรวจตาจึงเป็นการลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด
     

วิธีการรักษาเบาหวานขึ้นตา
สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานขึ้นตาแล้ว มีวิธีการรักษาเพื่อยับยั้งอาการต่าง ๆ ที่แตกต่างกันตามระยะที่เป็นและความรุนแรงของอาการ ดังนี้

1. ระยะเริ่มแรก: หากมีอาการเพียงเล็กน้อยจนถึงปานกลาง แพทย์จะคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดแทนการรักษา ซึ่งผู้ป่วยอาจต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้อาการลุกลาม

2. ระยะก้าวหน้า: ระยะนี้ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการที่รุนแรงขึ้น สามารถรักษาด้วยการเลเซอร์ เพื่อควบคุมและรักษาการรั่วซึมของหลอดเลือด จอตาขาดเลือด และหลอดเลือดที่ผิดปกติ หากมีอาการรุนแรงมากถึงขั้นเลือดออกในวุ้นตามาก หรือมีพังผืดดึงรั้งจอตา จอตาบวม จอตาหลุดลอกหรือฉีกขาด อาจต้องผ่าตัดวุ้นตา เพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็นนั่นเอง

จะเห็นว่า เบาหวานขึ้นตาเป็นเรื่องใกล้ตัวและอันตรายมากกว่าที่คิด หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ต้องสูญเสียดวงตาคู่ที่เรารักไปตลอดกาล ผู้ป่วยเบาหวานจึงต้องหมั่นดูแลสุขภาพตาให้ดีอยู่เสมอ แม้ไม่อาการผิดปกติ ก็ไม่ควรเบาใจเด็ดขาด ต้องตรวจตาเป็นประจำทุกปี เผื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นจะได้เข้ารับการรักษาได้ทันก่อนจะสายเกินไป


ขอบคุณข้อมูลจาก

  • https://www.phyathai.com/article_detail/3137/th/เบาหวานขึ้นตา…ปล่อยไว้นานอาจตาบอดได้ 
  • https://www.bangkokhospital.com/content/diabetic-retinopathy
  • https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/diabetic-retinopathy

ผู้สนับสนุนโครงการ